วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สมบัติของของเหลว

"น้ำใสใสหยาดหยด
เศร้าสลดยากเลือนหาย
ความอบอุ่นช่วยผ่อนคลาย
ทุกข์มลายเมื่อหยดน้ำระเหยไป"


สมบัติของของเหลว

1. ประกอบด้วยโมเลกุลที่เคลื่อนที่อย่างไม่เป็นระเบียบอยู่ตลอดเวลา และมีการชนกันอยู่ตลอดเวลาในโมเลกุล

2. การเพิ่มความดันจะไม่ทำให้ของเหลวมีปริมาตรลดลง เพราะเดิมโมเลกุลอยู่ชิดกันอยู่แล้ว จึงมีช่องว่างระหว่างโมเลกุลที่จะบีบอัดให้ชิดกันเข้าไปน้อย

3. ของเหลวมีแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลมากกว่าก๊าซ จึงทำให้มีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวสูงกว่า

4. ของเหลวมีการแพร่ได้ด้วยอัตราที่ช้ากว่าก๊าซ เพราะของเหลวมีความหนาแน่นมากกว่า



สมบัติของน้ำตา (หลั่งออกมาเมื่อเศร้าใจ)

1. เกิดจากความรู้สึก เศร้าโศก สับสน ว้าวุ่น หรือเป็นอารมณที่ไร้ระเบียบภายในจิตใจ และอาจมีความขัดแย้งอย่างมากภายในจิดใจ 

2. การเพิ่มความกดดันจะไม่ทำให้น้ำตามีปริมาณลดลง เพราะเดิมความเศร้าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อยู่แล้ว จึงไม่มีเรื่องใดที่จะทำให้เรื่องที่เศร้าใจยิ่งใหญ่น้อยลง

3. น้ำตามีแรงดึงดูดคนใกล้ชิดมากกว่าอารมณ์หงุดหงิด จึงทำให้พรั่งพรูและหลั่งไหลโดยมีผู้ปลอบประโลมได้มากกว่า

4. น้ำตาแพร่ความหงุดหงิดไปยังคนรอบข้างได้ด้วยอัตราที่ช้ากว่าอารมณ์ (การแสดงอารมณ์หงุดหงิดมักทำให้คนอื่นหงุดหงิดไปด้วย แต่ถ้าหงุดหงิดแล้วร้องไห้ จะใช้เวลาซักพักที่คนรอบข้างจะหงุดหงิดเพราะรำคาญ) เพราะน้ำตาเก็บความรู้สึกไว้อย่างเหนียวแน่นในหยาดน้ำแต่ละหยด


------------------------

การระเหยของของเหลว

การระเหย หมายถึง กระบวนการที่ของเหลวเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอ เกิดที่บริเวณผิวของของเหลวและเกิดได้ทุกอุณหภูมิ

การระเหย เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานะ ดังนั้นต้องใช้พลังงานหรือดูดความร้อนจากสิ่งแวดล้อมเข้ามา และสารที่ระเหยได้เร็วก็จะดูดความร้อนได้มาก ทำให้สิ่งแวดล้อมอุณหภูมิต่ำลง จึงทำให้สารระเหยได้ง่าย



การระเหยของน้ำตา

การระเหย หมายถึง กระบวนการที่น้ำตาเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอแล้วแห้งเหือดไป (เปรียบได้กับการรู้สึกดีขึ้น หรือคลายความเศร้าโศก) เกิดที่บริเวณผิวหน้าหรือเห็นได้ด้วยตารับรู้ได้จากความรู้สึก และเกิดได้จากทุกอารมณ์ (เปลี่ยนจากเศร้า เป็นโกรธ ดีใจ พอใจ หรือ ไม่สนใจก็ได้) 

การระเหย เป็นการเปลี่ยนแปลงสถานะของอารมณ์ ดังนั้นต้องใช้พลังงานหรือความอบอุ่นจากสิ่งแวดล้อมเข้ามา และน้ำตาที่ระเหยได้เร็วก็จะซึมซับความอบอุ่นได้มาก ทำให้อุณหภูมิของอารมณ์ต่ำลง จึงทำให้ความเศร้าระเหยได้ง่าย


------------------------

ปัจจัยที่มีผลต่อการระเหยของของเหลว

1. แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของสาร หรือชนิดของของเหลว ถ้ามีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้อย จะระเหยได้เร็วกว่าสารที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลมาก หรือสารที่จุดเดือดสูงจะระเหยได้ช้า

2. สิ่งแวดล้อม ถ้าอุณหภูมิสูงจะระเหยได้เร็ว

3. ความดันบรรยากาศ ถ้าความดันสูงของเหลวระเหยได้ยากกว่าที่ความดันบรรยากาศต่ำ

4. พื้นที่ผิวสัมผัสอากาศ เนื่องจากการระเหยเกิดที่ผิวหน้าของของเหลว ดังนั้นถ้าพื้นที่ผิวมากก็จะระเหยได้เร็ว

5. อากาศเหนือของเหลว ถ้าอากาศแห้งหรือความชื้นน้อย และ ถ่ายเทได้ดีของเหลวจะระเหยได้เร็ว

6. สิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การคนหรือกวน จะช่วยทำให้ของเหลวระเหยเร็วขึ้น เพราะโมเลกุลมีพลังงานจลน์สูง มีโอกาสอยู่ผิวหน้ามากขึ้น



ปัจจัยที่มีผลต่อการระเหยของน้ำตา

1. แรงยึดเหนี่ยวหรือความผูกพันธ์ในจิตใจ หรือความคิดของแต่ละบุคคล ถ้ามีแรงยึดเหนี่ยวในเรื่องที่เศร้าใจน้อย ความเศร้าจะระเหยได้เร็วกว่ากรณีที่มีแรงยึดเหนี่ยวในเรื่องที่เศร้านั้นมาก หรือถ้าอารมณ์เดือดสูงจะความเศร้าก็จะระเหยได้ช้า

2. สิ่งแวดล้อม ถ้าความอบอุ่นสูงความเศร้าจะระเหยได้เร็ว

3. ความกดดัน ถ้าความกดดันสูง หยดน้ำตาจะระเหยได้ยากกว่าที่ความกดดันต่ำ

4. การได้สัมผัสอากาศ เนื่องจากการระเหยของน้ำตาเกิดที่ผิวหน้าก่อน ดังนั้นถ้าออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง น้ำตาก็จะระเหยได้เร็ว

5. บรรยากาศรอบๆตัว ถ้าบรรยากาศรอบๆตัวสงบ หรือไม่มีความเศร้าจากเรื่องอื่นเข้ามาปน และ อารมณ์สามารถถ่ายเทได้ดี น้ำตาจะระเหยได้เร็ว

6. สิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การทำงานหรือกิจกรรมสนุกสนาน จะช่วยทำให้น้ำตาระเหยเร็วขึ้น เพราะเมื่อมีการขยับก็มีพลังงานจลน์สูง มีโอกาสต้องเผชิญหน้ากับเรื่องอื่นมากขึ้น


------------------------

ลมบก-ลมทะเล




ลมบก
เกิดในเวลากลางคืน พัดจากฝั่งออกสู่ทะเล
เนื่องจากในเวลากลางคืน
อากาศเหนือพื้นน้ำมีอุณหภูมิสูง ความหนาแน่นน้อย ความกดอากาศต่ำ
จึงลอยตัวขึ้นสู่ที่สูง
ทำให้อากาศเหนือพื้นดิน ที่มีอุณหภูมิต่ำ ความหนาแน่นมาก ความกดอากาศสูง 
พัดเข้ามาแทนที่

-----------------------------------------------------------

ลมทะเล
เกิดในเวลากลางวัน พัดจากทะเลออกสู่ฝั่ง

เนื่องจากในเวลากลางวัน
อากาศเหนือพื้นดินมีอุณหภูมิสูง ความหนาแน่นน้อย ความกดอากาศต่ำ
จึงลอยตัวขึ้นสู่ที่สูง
ทำให้อากาศเหนือพื้นน้ำ ที่มีอุณหภูมิต่ำ ความหนาแน่นมาก ความกดอากาศสูง 
พัดเข้ามาแทนที่

-----------------------------------------------------------


จะทะเลหรือบนบก จะบนดินหรือในน้ำ แค่มีเธออยู่เคียงข้าง ก็เหมือนลมบางๆคอยพัดใจ...


วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555

What type of your mind?



Primitive Data Type คงไม่ไหว
ADT ชนิดไหน ใคร่อยากรู้
ทั้ง Linked List, Stack, Queue ไม่อาจสู้
Array รู้ไม่อาจมาเทียบเคียง

Semaphore ที่ว่าแน่ยังแพ้เจ้า
Swap in, Swap out ไม่มีเสียง 
Insert ได้ Retrieve ได้ ไม่เอนเอียง
ช่างยอดเยี่ยมจริงนะหัวใจเธอ...



Verb แท้ไม่ได้มีแค่หนเดียว



ตอนเด็กๆ คุณครูเคยสอนไว้ว่า...

        ชีวิตอยู่ก็ต้องคอย enjoy, like

     ไม่ต้อง mind, consider นะเธอจ๋า

     จง finish อย่า risk เสี่ยงเลี่ยงเวลา

     no use น่ะ  no good ด้วย ช่วยกันจำ

        อย่า avoid คอย postpone จะโดนเทศน์

     appreciate อย่า deny ไม่น่าขำ

     be busy มีเสมอ เธอจงจำ

     keep ด้วยคำ excuse me ดีจริงๆ

        จง practice อย่าคิด spend เล่นเลยเถิด

     จะ be worth ดัง suggest วิเศษยิ่ง

     look forward to เธอ เสมอจริง

     be used to บวก -ing จริงทุกที

        prefer to, object to, or look like

     devote to คู่ใจไม่หน่ายหนี

     เมื่อ can't help, imagine ก็ยินดี

     feel like me อีก take to เป็นคู่กัน

                                               และ preposition ทุกตัว

...เป็น verb แท้ที่ต้องตามด้วย verb -ing



ปัจจุบัน...

        ตื่นเช้ามาก็ต้องคอยไปกด like

     พอสายหน่อยก็เข้าไป post จ๊ะจ๋า

     comment มาก ต้องนั่งอ่านเสียเวลา

     เก็บผักอีก นั่นแหละหนา งานประจำ...